วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ดอกฝิ่น..Opium..



ฝิ่น เป็นพืชไม้ล้มลุก มีการลักลอบปลูกบนพื้นที่สูง  เหนือกว่าระดับน้ำทะเล  800  ฟุต  และมีอากาศหนาวเย็น  ฝิ่นมีลำต้นสูงประมาณ  2 – 4 ฟุต  ดอกฝิ่นจะมีสีขาว  สีแดง  สีม่วง  และสีม่วงแดง  ดอกมี 4 กลีบ  ฝิ่นที่นำมาเสพได้จากน้ำยางของผลฝิ่น  ที่กรีดออกมาจากเปลือกผลฝิ่นดิบ น้ำยางที่ถูกกรีดมานั้นจะมีสีขาว  เมื่อถูกอากาศจะมีสีคล้ำลงกลายเป็นยางเหนียวสีน้ำตาลไหม้หรือดำ  มีกลิ่นเหม็นเขียวและรสขมเรียกว่า ฝิ่นดิบเมื่อนำฝิ่นดิบมาต้มเคี่ยวกับน้ำเรียกว่า ฝิ่นสุกนิยมเสพโดยการสูบด้วยกล้องยาสูบ 
               ฝิ่น (Opium) เป็นสารประกอบชนิดหนึ่ง ซึ่งได้จากยางของผลฝิ่น ในเนื้อฝิ่นมีสารเคมีผสมอยู่มากมายประกอบด้วย โปรตีน เกลือแร่ ยางและกรดอินทรีย์ เป็นแอลคะอลยด์ (Alhaloid) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฝิ่นกลายเป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง แอลคะลอยด์ ใน



       ฝิ่นแบ่งแยกออกได้เป็น   2ประเภท                                                                           
ประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการมึนเมา และเป็นยาเสพติดให้โทษโดยตรงแอลคะลอยด์ประเภทนี้ทางเภสัชวิทยา ถือว่า เป็นยาทำให้นอนหลับ (Hypnotic) แอลคะลอยด์ที่เป็นสารเสพติดซึ่งออกฤทธิ์ตัวสำคัญที่สุดในฝิ่น คือ มอร์ฟีน (Morphine)                                                    
ประเภทที่ 2 ออก ฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนคลายตัว ซึ่งในทางเภสัชวิทยาถือว่า แอลคะลอยด์ ในฝิ่นประเภทนี้ ไม่เป็นสารเสพติด แต่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายหย่อนคลายตัว ซึ่งมีปาเวอร์รีน (Papaverine) เป็นตัวสำคัญ
ฤทธิ์ในทางเสพติด  ฝิ่นออกฤทธิ์กดระบบประสาท มีอาการเสพติดทางร่างกายและจิตใจมีอาการขาดยาทางร่างกาย
 อาการผู้เสพ : จิตใจเลื่อยลอย ง่วง ซึม แก้วตาหรี่ พูดจาวกวน ความคิดเชื่องช้า ไม่รู้สึกหิว ชีพจรเต้นช้า
โทษทางกฎหมาย : จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2 ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522

“เคยเห็นคนเขาเปรียบว่ากุหลาบงามหนามยิ่งแหลม  แต่ฝิ่นงามหนามไม่แหลม แต่พิษร้ายลึกเหลือเกิน เปรียบเหมือนสาวงามที่สวยแสบพิฆาต ใครเลยจะปฏิเสธถึงความงามและความร้ายกาจของฝิ่นได้  ฝิ่นนะให้คุณอนันต์แต่ก็โทษมหันต์  ฝิ่นสวยนะก็สวยดีแต่เป็นสวยประหาร”





ขอขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.oknation.net/blog/anong/2008/03/04/entry-1 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น