ฝิ่น เป็นพืชไม้ล้มลุก มีการลักลอบปลูกบนพื้นที่สูง
เหนือกว่าระดับน้ำทะเล 800 ฟุต
และมีอากาศหนาวเย็น ฝิ่นมีลำต้นสูงประมาณ 2
– 4 ฟุต ดอกฝิ่นจะมีสีขาว สีแดง สีม่วง
และสีม่วงแดง ดอกมี 4 กลีบ
ฝิ่นที่นำมาเสพได้จากน้ำยางของผลฝิ่น ที่กรีดออกมาจากเปลือกผลฝิ่นดิบ
น้ำยางที่ถูกกรีดมานั้นจะมีสีขาว เมื่อถูกอากาศจะมีสีคล้ำลงกลายเป็นยางเหนียวสีน้ำตาลไหม้หรือดำ
มีกลิ่นเหม็นเขียวและรสขมเรียกว่า “ฝิ่นดิบ”
เมื่อนำฝิ่นดิบมาต้มเคี่ยวกับน้ำเรียกว่า “ฝิ่นสุก”
นิยมเสพโดยการสูบด้วยกล้องยาสูบ
ฝิ่น (Opium)
เป็นสารประกอบชนิดหนึ่ง ซึ่งได้จากยางของผลฝิ่น
ในเนื้อฝิ่นมีสารเคมีผสมอยู่มากมายประกอบด้วย โปรตีน เกลือแร่ ยางและกรดอินทรีย์
เป็นแอลคะอลยด์ (Alhaloid) ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฝิ่นกลายเป็นยาเสพติดให้โทษร้ายแรง
แอลคะลอยด์ ใน
ฝิ่นแบ่งแยกออกได้เป็น 2ประเภท
ประเภทที่ 1 ออกฤทธิ์ทำให้เกิดอาการมึนเมา
และเป็นยาเสพติดให้โทษโดยตรงแอลคะลอยด์ประเภทนี้ทางเภสัชวิทยา ถือว่า
เป็นยาทำให้นอนหลับ (Hypnotic) แอลคะลอยด์ที่เป็นสารเสพติดซึ่งออกฤทธิ์ตัวสำคัญที่สุดในฝิ่น
คือ มอร์ฟีน (Morphine)
ประเภทที่ 2 ออก
ฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนคลายตัว ซึ่งในทางเภสัชวิทยาถือว่า แอลคะลอยด์
ในฝิ่นประเภทนี้ ไม่เป็นสารเสพติด
แต่มีฤทธิ์ทำให้กล้ามเนื้อของร่างกายหย่อนคลายตัว ซึ่งมีปาเวอร์รีน (Papaverine)
เป็นตัวสำคัญ
ฤทธิ์ในทางเสพติด ฝิ่นออกฤทธิ์กดระบบประสาท มีอาการเสพติดทางร่างกายและจิตใจมีอาการขาดยาทางร่างกาย
อาการผู้เสพ : จิตใจเลื่อยลอย ง่วง ซึม แก้วตาหรี่ พูดจาวกวน
ความคิดเชื่องช้า ไม่รู้สึกหิว ชีพจรเต้นช้า
โทษทางกฎหมาย
: จัดเป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 2
ตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522
“เคยเห็นคนเขาเปรียบว่ากุหลาบงามหนามยิ่งแหลม แต่ฝิ่นงามหนามไม่แหลม แต่พิษร้ายลึกเหลือเกิน
เปรียบเหมือนสาวงามที่สวยแสบพิฆาต
ใครเลยจะปฏิเสธถึงความงามและความร้ายกาจของฝิ่นได้ ฝิ่นนะให้คุณอนันต์แต่ก็โทษมหันต์ ฝิ่นสวยนะก็สวยดีแต่เป็นสวยประหาร”
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:http://www.oknation.net/blog/anong/2008/03/04/entry-1
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น